เทคนิคการกินอาหารตามลำดับ

 เทคนิคการกินอาหารตามลำดับ ควรกินดังนี้     

        ๑.           ดื่มสมุนไพร ต่าง ๆ เช่น น้ำเขียว (คลอโรฟิลล์ สด จากธรรมชาติ) วิธีการดื่ม วันละ ๒-๓ ครั้ง ก่อนอาหาร ไม่ควรดื่มหลังอาหารทันที จะทำให้การย่อยอาหารไม่ดี ยกเว้น รุ้สึกระหายน้ำ หรืออาการไม่สบายในกลุ่มร้อนเกิน ปกติถ้าดื่มหลังอาหารควรดื่มหลังอาหารอย่างน้อย ๒ ชั่วโมงหรือ ตอนท้องว่าง ปริมาณและความเข้มข้นมากหรือน้อยอยู่ที่สภาพร่างกายแต่ละคน บางคนอาจะจะถูกกับสมุนไพรฤทธิ์เย็นผ่านไฟ ก็ให้กดน้ำร้อนใส่ หรือใส่สมุนไพรฤทธิ์ร้อน
         ๒.   กินผลไม้ ถ้ารสเปรี้ยวนั้นไม่เสียวฟัน ให้กินก่อนผลไม้หวาน แต่ถ้ากินเปรี้ยวแล้วเสียวฟัน ให้งดเสีย ส่วนผลไม้หวานให้กินเพียงเล็กน้อย แค่พอสบายตัว และมีกำลัง
         ๓.   กินผักสด หรือผ่านไฟ อาจกินเป็นสลัดผัก ยำ ห่อใบเมี่ยง บส้มตำ น้ำพริกหรือกับข้าวอื่น ๆ
         ๔.   กินข้าวเปล่าโรยเกลือ หรือ กินข้าวพร้อมกับข้าวต่าง ๆ
         ๕.  ถั่วเขียวต้ม อาจใส่เกลือ หรือน้ำตาลเล็กน้อย (ต้มพอสุกไม่เปื่อย ใช้ไฟกลาง ๆ หรือถั่วหลากพันธุ์ที่ถูกกับสภาพร่างกาย)
         ๖.  กินแกงจืด/แกงอ่อม /แกงเลียง/น้ำซุป/น้ำแกงอื่น ๆ ที่รสไม่จัด อาหารดังกล่าวสามารถกินได้ทุกขั้นตอนของอาหาร และขณะย่อยอาหาร ร่างกายจะใช้พลังความร้อนในการย่อย ถ้าเรากินน้ำแกงหรือน้ำที่ผ่านการรับความร้อนจากไฟ ล้างคอแทนน้ำเปล่าเป็นลำดับท้าย จะช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดี
          
              ส่วนน้ำเปล่าถ้าดื่มหลังอาหารทันที มักทำให้ระบบย่อยทำงานไม่ดี เพราะเป็นน้ำที่ไม่ผ่านพลังร้อน ควรดื่มน้ำเปล่าเมื่อเริ่มรู้สึกกระหายน้ำ ซึ่งถ้ากินอาหารได้สมดุลมักจะเริ่มกระหายน้ำหลังจากที่กินอาหารประมาณ ๑-๒ ชั่วโมง ส่วนผุ้ที่กินอาหารไม่สมดุล มักกระหายน้ำเร็วกว่านั้น  ก็ควรจะดื่มน้ำเปล่าแก้กระหายตามที่ร่างกายบอกหรือแสดงอาการกระหายน้ำ
           
             สำหรับวันที่อากาศหนาวเย็น การไหลเวียนของน้ำย่อยและเลือดลมจะไม่ค่อยสะดวก ดังนั้นการกินต้มผักหรือแกงผักที่รสไม่จัด(ทั้งน้ำและเนื้อผัก) ก่อนอาหารอื่นมักทำให้สบายตัวดี เพราะจช่วยให้เลือดลมน้ำย่อยในระบบย่อยไหลเวียนได้ดี เป็นการทำให้อุ่นสบายพอดีสมดุล กับสภาพอากาศที่หนาวเย็น (ใช้หลักการที่ทำให้แข็งแรงอายุยืนของพระพุทธเจ้า คือเป็นผู้ทำความสบายแก่ตนเอง)
            
             การกินอาหารตามลำดับตามเทคนิคดังกล่าว เป็นการกินอาหารตามลำดับ จากการย่อยง่ายไปสู่ยาก และตามลำดับการคุ้มครองเซลล์เนื้อเยื่อของร่างกาย โดยน้ำสมุนไพรจะดูดซึมเร็วที่สุด ย่อยง่ายที่สุด รองลงมาเป็น ผลไม้ ผัก ข้าว โปรตีนและไขมันตามลำดับ การกินอาหารตามลำดับ จะทำให้อาหารดูดซึมไปใช้ได้เร็วโดยไม่ติดขัด ไม่เป็นภาระในการแบกน้ำหนักของอาหารในระบบย่อย โดยเฉพาะกระเพาะอาหารและลำไส้การกินอหารตามลำดับ จะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อได้รับการคุ้มครองเพราะในขณะที่เราหิว จะเกิดภาวะร้อนขึ้นจากไฟย่อย น้ำย่อยทำงาน คนส่วนใหญ่เวลาหิว ก็มักจะกินข้าวก่อนอย่างอื่น ข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานความร้อน ความร้อนก็จะเผาเซลล์เนื้อเยื่อของเรา กว่าที่สมุนไพรผักผลไม้ซึ่งมีฤทธิ์เย็นจะเข้าไปคุ้มครองเซลล์เนื้อเยื่อ เซลล์เนื้อเยื่อบางส่วนก็ถูกความร้อนทำลายไปแล้ว จะสังเกตได้ว่า ในขณะที่เราหิวมาก ๆ จะกินข้าวไม่ลงหรือติดคอ นั่นคือสัญญาณต้านของร่างกาย ถ้าเรากินผักผลไม้ก่อน (ผักผลไม้ฤทธิ์เย็น) หรือถ้ามีสมุนไพรที่ฤทธิ์เย็นก็กินก่อน จะทำให้ฤทธิ์เย็นเข้าไปคุ้มครองร่างกายก่อน พอกินข้าวพลังงานความร้อนของข้าวก็จะไม่เผาทำลายเซลล์เรา และเมื่อความร้อนจากข้าวเริ่มออกฤทธิ์ ก็จะพอดีย่อยถั่ว เพราะถั่วต้องการใช้พลังงานในการย่อยสูง
          
             การกินอาหารตามลำดับดังกล่าว จะทำให้ระบบย่อยทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ เบาเนื้อ เบาตัว สดชื่น กระปรี้กระเปร่า สบายตัวและมีกำลังกว่าการไม่กินตามลำดับ และเทคนิคการกินอาหารตามลำดับ ยังทำให้เรากินผักได้ง่าย ได้มาก ซึ่งเป็นผลดีกับร่างกาย


ที่มา : ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)

          หนังสือความลับฟ้า หน้า ๘๑-๘๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น